เมื่อ 7 ปีก่อน ชื่อหนึ่งที่สร้างความตื่นตะลึง และหวาดผวาให้กับคนไทยทั่วประเทศ ย่อมต้องมีชื่อของชายคนนี้รวมอยู่ด้วยแน่นอน "สมคิด พุ่มพวง" ชายผู้ก่อเหตุฆาตกรรมหญิงสาวถึง 5 ศพในเวลาไล่เลี่ยกัน
เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นในเมืองไทยมาก่อน!!
วันที่ 30 ม.ค. 48 เวลาประมาณ 05.00-07.00 น. สมคิด พุ่มพวง อายุ 41 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ลงมือฆ่า น.ส.วารุณี พิมพะบุตร ในห้องพัก 609 โรงแรมพลอย พาเลซ ต.มุกดาหาร อ.เมืองมุกดาหาร นั่นคือจุดเริ่มต้นตำนานฆาตกรรมสยองของเมืองไทย
ครั้งต่อมาวันที่ 4 มิ.ย. 48 เวลา 11.20 น. สมคิดก่อเหตุฆ่า น.ส.ผ่องพรรณ ทรัพย์ชัย ภายในห้องพัก 604 โรงแรมเวียงละคอน ต.สวนดอก อ.เมืองลำปาง จากนั้นให้หลังเพียง 7 วัน คือวันที่ 11 มิ.ย. 48 เวลาระหว่าง 01.00–14.00 น. สมคิดก่อคดีฆ่า นางพัชรีย์ อมตนิรันดร์ ภายในห้อง พัก 505 โรงแรมธรรมรินทร์ธนา ต.ทัพเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง เป็นเหยื่อรายที่ 3 ของเขา
สมคิดยังไม่หยุดลงมือเพียงเท่านี้ ต่อมาวันที่ 18 มิ.ย. 48 เวลา 01.00 น. เขาได้สังหาร น.ส.พรตะวัน ปังคะบุตร ในห้องพักเลขที่ 1126 โรงแรมเจริญศรีแกรนด์ อ.เมืองอุดรธานี
...
แม้จะเกิดคดีฆาตกรรมหญิงสาวขึ้นถึง 4 ราย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มิได้คาดคิดว่า ทั้ง 4 ศพจะมีความเชื่อมโยงกันแต่อย่างใด เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุอยู่คนละทิศละทาง คนละจังหวัด จากนั้นก็มีศพที่ 5 ตามมา เหตุเกิดระหว่างวันที่ 20-21 มิ.ย. 48 เวลาประมาณ 20.30–13.30 น. เหยื่อคือ น.ส.สมปอง พิมพรภิรมย์ ในห้องพัก 221 ปิยะแมนชั่น ต.ชุมเห็ด อ.เมืองบุรีรัมย์
เป็นบุญของสาวๆ อีกหลายคนเมื่อ พล.ต.ต.อัศวิน ขวัญเมือง รอง ผบช.ก.(ยศในขณะนั้น) นำกำลังบุกจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 24/1 หมู่ 1 ต.รอบเมือง อ.เมืองชัยภูมิ ซึ่งเป็นบ้านของนางประภาพร เพียรชัยภูมิ อายุ 36 ปี แม่ม่ายลูก 4 และเป็นภรรยาใหม่ของ สมคิด ซึ่งไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน ยอมให้ตำรวจจับกุมโดยดี ตรวจค้นพบของกลางหลายรายการ ซึ่งทั้งหมดเป็นของเหยื่อ
จากนั้นข้อมูลที่น่าตระหนกจึงถูกเปิดเผยออกมา ว่าทั้ง 5 ศพเป็นฝีมือของเขาเอง !!
สมคิด สารภาพว่าสาเหตุที่ต้องลงมือสังหารเหยื่อแต่ละราย เนื่องจากหลังร่วมหลับนอนแล้วถูกเหยื่อขอค่าตัวเพิ่ม ซึ่งผิดตามที่ตกลงกันไว้ ทำให้เกิดความโมโห ลงมือฆ่าเหยื่อ
พฤติกรรมของ สมคิด ทำให้คนในสังคมหวนคิดไปถึง "แจ็ค เดอะ ริปเปอร์" (Jack the Ripper) ฆาตกรต่อเนื่องชื่อกระฉ่อนโลก ซึ่งก่อคดีสะเทือนขวัญในกรุงลอนดอน ช่วงเดือน ส.ค.-พ.ย. 1888 เหยื่อของแจ็ค ล้วนเป็นหญิงขายบริการย่านไวต์แชปเพิล แหล่งเสื่อโทรมในเขตอีสต์เอนด์ สภาพศพถูกเชือดคอด้วยของมีคม และโดนคว้านเอาอวัยวะภายในออกไป บางศพถูกควักลูกตา เฉือนจมูก บางรายถูกถลกหนัง เฉือนมดลูกออกมากองอยู่ข้างๆ อย่างน่าสยดสยอง
ขณะที่เหยื่อของสมคิดทั้งหมด ก็ล้วนเป็นหญิงขายบริการเช่นเดียวกัน ต่างกันเพียงไม่มีการเชือดคอ และคว้านท้องเอาเครื่องใน แต่มีการเอาทรัพย์สินผู้ตายไป สมคิดจึงมีสมญานามต่อท้ายนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ว่า "สมคิด เดอะ ริปเปอร์"
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สังคมอยากรู้ก็คือ อะไรคือแรงจูงใจให้สมคิด ลงมือกระทำการเช่นนี้ ซึ่งจากการไปเสาะหาบ้านเกิดสมคิด ใน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และบ้านแม่เลี้ยงใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ทราบจาก นายคลิ้ง กิ่งแก้ว อายุ 75 ปี ลุงเขยของสมคิด ผู้อุปการะสมคิดมาตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย เพราะพ่อของสมคิดนำมาฝากเลี้ยงไว้ แต่ไม่รู้ว่าใครคือแม่
สมคิด เป็นเด็กธรรมดาดูภายนอกค่อนข้างเงียบครึม ไม่ชอบพูด แต่ถ้าใครสนิทด้วยจะรู้ว่า เป็นคนพูดจาเก่ง พูดเพราะ ไม่กระโชกโฮกฮาก อ้อนเก่ง แต่เป็นเด็กดื้อเงียบ พูดจาอะไรจะรับฟัง แต่ไม่ปฏิบัติตาม และเป็นคนที่ไม่ยอมใคร จะใช้กำลังเข้าต่อสู้เสมอ เรียนหนังสือได้แค่ ป.2 ก็ต้องออกจากโรงเรียน เพราะไปขโมยจักรยานของครู และเริ่มต้นขโมยของทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่ของเพื่อน และของคนในบ้าน
...
จนเมื่อเขาอายุประมาณ 17-18 ปี ได้เป็นหัวหน้าคุมงานที่โรงไม้ ผู้จัดการไว้ใจให้เอาเช็คเงินสดจำนวน 50,000 บาท ซึ่งเป็นค่าแรงของคนงาน ไปขึ้นเงินในตัว อ.ทุ่งสง สุดท้ายถูกเชิดเงินไปกินเที่ยวอยู่ 2 วัน ก่อนกลับมาบ้านพร้อมผู้หญิงคนหนึ่ง จึงถูกทางบ้านตัดหางปล่อยวัด
นักอาชญาวิทยา มองว่า คำรับสารภาพของสมคิด ที่ว่าต้องการเงินและไม่มีเงินให้เหยื่อ จึงต้องฆ่านั้น ไม่น่าจะตรงกับข้อเท็จจริง แต่อาจจะเกิดจากจิตใต้สำนึกของผู้ต้องหาเอง การจะบอกว่าผู้ต้องหาเป็นโรคจิตหรือไม่ ก็จนกว่าจะได้ทำแบบทดสอบ บางครั้งไม่ได้เป็นโรคจิต แต่เกิดจากแรงกดดันในจิตใต้สำนึกของตัวผู้ต้องหาเอง
เวลานี้ "สมคิด เดอะ ริปเปอร์" ชดใช้กรรมที่ก่อไว้ในเรือนจำ และศาลอุทธรณ์เพิ่งจะตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต ไปเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ยังเหลืออีก 1 ศาล และอีก 4 คดี ที่ยังไม่ได้มีการพิจารณา ดูท่าว่า ตำนานฆาตกรต่อเนื่องของเมืองไทยรายนี้ คงต้องปิดฉากชีวิตลงภายในกำแพงสี่เหลี่ยมอย่างแน่นอน.