สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานสัมภาษณ์เกี่ยวกับ “หลักการทรงงานพัฒนาประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และประสบการณ์ที่โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ในหนังสือเฉลิมพระเกียรติ “พระมหากษัตริย์นักพัฒนา เพื่อประโยชน์สุขสู่ปวงประชา” ซึ่ง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้จัดทำขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาประเทศและตนเองต่อไป

โดยในส่วนที่ 1 ของภาพรวมหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้รับพระกรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานนั้น ทรงมีรับสั่งตอนหนึ่งว่า

“หลักกว้างๆ ของพระองค์คือ เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรว่ามีสิ่งอะไรที่ควรปรับปรุงได้ดีกว่านี้ ทำประโยชน์ให้เจริญรุ่งเรืองได้มากขึ้นกว่านี้ หรือประชาชนยังมีปัญหาความทุกข์ในพื้นที่แบบนี้ จะทำอย่างไร โดยพระองค์จะทรงใช้ความรู้ที่มีอยู่ หรือหากยังทรงไม่มีความรู้ในสิ่งที่คิดว่าสำคัญ พระองค์จะทรงหาความรู้ โดยทรงศึกษาและสนทนากับผู้รู้ต่างๆ แล้วนำมาประยุกต์ปรับปรุง ถ้าทรงเห็นว่าดีแล้ว ก็ต้องเข้มแข็งพอที่จะทำ หากว่ามีปัญหาหรือใครว่ามา ก็ทรงพิจารณาปรับปรุงแก้ไข ไม่ใช่พอมีปัญหาก็หลีกเลี่ยงไป ต้องอดทน ตั้งใจ ระมัดระวังและรอบคอบ”

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รับสั่งอีกว่า เป้าหมายในการพัฒนาของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว คือ การพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของคน โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ให้คนมีความสุข โดยต้องคำนึงถึงเรื่องสภาพภูมิศาสตร์ ความเชื่อทางศาสนา เชื้อชาติและภูมิหลังทางเศรษฐกิจ สังคม...พระองค์ตรัสเสมอว่า ถ้าเรายังไม่สามารถช่วยเหลือใครให้มีความกินดีอยู่ดีขึ้น เราจะไปทำลายวิถีชีวิตเก่าเขาไม่ได้ และการที่จะช่วยเขา ต้องทดลองทำให้แน่ใจก่อนว่าดี แล้วจึงค่อยให้เขาทำ

นอกจากนี้ ยังรับสั่งอีกว่า เวลาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปที่ไหน พระองค์จะเสด็จพระราชดำเนินนำไปก่อน คนในขบวนวิ่งกันกระเจิง ตามเสด็จฯไม่ค่อยทัน เวลาตามเสด็จฯจึงลำบาก จะวิ่งหนีเข้าร่ม หรือแอบเสวยอะไรไม่ได้ ไม่ใช่ว่าพระองค์ทรงห้ามไม่ให้เสวย ไม่ให้หลบแดด แต่พระองค์ก็ทรงไม่หลบแดด ไม่ได้เสวยด้วยเหมือนกัน บางครั้งพระองค์เองทรงพระประสงค์ให้คนที่ตามเสด็จฯ ได้รับประทานด้วยซ้ำ เมื่อรับประทานเสร็จแล้วจะได้พร้อมที่จะทำงาน แต่ส่วนใหญ่เจ้าภาพจะบอกว่า พวกนี้ไม่สุภาพ พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังไม่เสวย แล้วทำไมถึงกินก่อน.....การที่พวกเขา ชาวบ้านเคารพพระองค์ ไม่ใช่เพราะทรงเป็นพระเจ้าอยู่หัว แต่เป็นเพราะพระองค์ทรงเป็นเหมือนญาติพี่น้อง เป็นญาติผู้ใหญ่ ที่ทรงช่วยปัดเป่าความทุกข์ให้แก่เขาเวลาที่เดือดร้อน มีอะไรเขาก็มาเล่าให้ฟัง เหมือนญาติไปเยี่ยมบ้านกัน

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รับสั่งถึงการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า พระองค์ก็ทรงเหนื่อยเหมือนกัน แต่ไม่ทรงบ่น ทรงงาน 365 วัน ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะมีวิทยุดังมาตลอด และยังมีอุปกรณ์สำหรับติดตามข่าวสารพัดอย่าง พระองค์ทรงฟังคลื่นวิทยุหลายเครือข่าย ถึงทรงรู้ว่า มีน้ำท่วม ไฟไหม้ตรงไหน มีอะไรพระองค์ก็ทรงให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงที เดี๋ยวนี้ก็ยังทรงทำอยู่เลย พระองค์ทรงงานแบบนี้จนรู้สึกว่าเป็นชีวิตประจำวันของพระองค์ จะทรงมีของพระราชทานไว้ตามกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนตลอด พอเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันก็สามารถนำไปมอบให้ชาวบ้านได้ทันที

“ขณะนี้แม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ก็ยังทรงงานเพื่อช่วยเหลือพสกนิกรอยู่ตลอดเวลา...พระองค์ทรงสนพระทัยในการช่วยเหลือราษฎรเป็นอย่างมาก และยังทรงงานอยู่ ตรงไหนที่ไหนพระองค์เสด็จฯไหวก็จะเสด็จฯ”

สำหรับประชาชนที่สนใจสามารถดาวน์โหลดหนังสือนี้ได้ที่ www.nesdb.go.th และหากสถาบันการศึกษาหรือห้องสมุดใดมีความประสงค์จะร่วมเผยแพร่ สามารถติดต่อกลุ่มงานประชาสัมพันธ์ โทร.0-2280-4085 ต่อ 1303-1305.

...