นับเป็นความสูญเสียอันยิ่งใหญ่อีกครั้งของครอบครัวตระกูล “ลอเดอร์” ผู้กุมบังเหียนธุรกิจเครื่องสำอางชื่อดังของโลก “เอสเต ลอเดอร์” ซึ่งได้สูญเสีย “เอเวอร์ลิน ลอเดอร์” ผู้บริหารคนดังไปด้วยวัย 75 ปี จากภาวะแทรกซ้อนจากโรคมะเร็งรังไข่ที่ไม่เกิดจากพันธุกรรม เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา
เอเวอร์ลิน เอช. ลอเดอร์ เป็นหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ “เอสเต ลอเดอร์” โดยเป็นฟันเฟืองสำคัญในการปลุกปั้นธุรกิจของครอบครัวสามี หลังจากที่เธอแต่งงานกับ “เลียวนาร์ด เอ. ลอเดอร์” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ “มิสซิสเอสเต ลอเดอร์” ผู้ก่อตั้งบริษัท ซึ่งปัจจุบัน มร.เลียวนาร์ด นั่งเก้าอี้ประธานกิตติคุณของกลุ่มบริษัทเอสเต ได้กล่าวสดุดีภริยาสุดที่รักว่า ตนใช้ชีวิตร่วมกับเอเวอร์ลินมานานถึง 52 ปี การสูญเสียครั้งนี้ยิ่งใหญ่ไม่เพียงแต่ตนเองและครอบครัว หากยังเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของบริษัทอีกด้วย ตำแหน่งของเอเวอร์ลิน คือรองประธานบริษัทอาวุโส แต่นั่นมิได้ครอบคลุมอย่างครบถ้วนต่อสิ่งต่างๆ ที่เธอได้ทำอีกมากมาย
มร.เลียวนาร์ดกล่าวต่อว่า เราแต่งงานกันในปี 2502 และมีลูกชาย 2 คนคือ วิลเลียม ลอเดอร์ ประธานบริหารกลุ่มเอสเต ลอเดอร์ คนปัจจุบัน และแกรี่ ลอเดอร์ กรรมการผู้จัดการของบริษัทลอเดอร์ พาร์ทเนอร์ส แอลแอล เอเวอร์ลินเคยเป็นครูโรงเรียนรัฐบาลของนิวยอร์กในฮาเร็ม อาศัยภูมิหลังการสอนหนังสือ ทำให้ตนชักชวนเธอเข้ามาร่วมงานกับมารดา และแต่งตั้งเธอเป็นกรรมการฝ่ายอบรมคนแรกของบริษัท ซึ่งไม่เพียงทำหน้าที่จัดการอบรมเท่านั้น เธอยังเป็นกรรมการฝ่ายผลิตภัณฑ์ใหม่และกรรมการฝ่ายการตลาดของเราด้วย ในฐานะฝ่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ เธอทำหน้าที่ตรวจสอบเครื่องสำอางให้มีสีตรงตามมาตรฐาน ขายสินค้าในร้าน เดินทางไปปรากฏตัวในนามบริษัท เวลานั้นบริษัทเราเล็กมาก ระหว่างชั่วโมงอาหารกลางวัน เธอยังอยู่ในสำนักงานคอยรับโทรศัพท์และรับคำสั่งซื้อของลูกค้าด้วย เอเวอร์ลินทำงานใกล้ชิดกับแม่ของตน ทั้งคู่ได้นำน้ำหอม “อรามิส” ออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรก รวมถึงน้ำหอมส่วนใหญ่ของเอสเต ลอเดอร์ด้วย จนทำให้บริษัทของเรากลายเป็นบริษัทน้ำหอมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
มร.เลียวนาร์ดบอกว่า เอเวอร์ลินไม่เพียงแต่มีจมูกดมกลิ่นน้ำหอมได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่เธอยังเป็นคนชอบทำสวน และชอบเก็บดอกไม้มาประดับบ้าน จะมีแจกันดอกไม้สดไว้รอต้อนรับตนทุกวัน เธอเป็นภรรยาที่เปี่ยมด้วยความรัก และยังเป็นทั้งแม่, คุณย่า, คู่คิด, เพื่อน, ผู้บริหาร, ช่างภาพ และเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ กระฉับกระเฉง เด็ดเดี่ยว ที่สำคัญเป็นคนใจบุญที่พร้อมจะช่วยเหลือคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่ต้องการให้เธอช่วยเหลือ
นอกจากผู้บริหารเอสเต ลอเดอร์แล้ว เอเวอร์ลินยังเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดต่อสาธารณชนในการรณรงค์โรคมะเร็งเต้านม ซึ่งมาจากการที่เธอต้องประสบกับโรคนี้เอง และในปี 2535 เธอได้ร่วมสร้างสรรค์ริบบิ้นสีชมพู ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของการรณรงค์มะเร็งเต้านมไปทั่วโลกในขณะนี้ด้วย.
...