ธนาธร พร้อมทีมกฎหมาย เข้าให้ข้อมูลตำรวจ ปอท. หลังถูกแจ้งความดำเนินคดี กรณีไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก แล้วพาดพิงถึง คสช.ว่ามีการดูด ส.ส.โดยใช้คดีความที่ติดตัวมาต่อรอง...

เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2561 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมทีมกฎหมายเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน ปอท. หลังถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แจ้งความเอาผิด หลังจากนายธนาธร และผู้ดำเนินรายการอีก 2 คนไลฟ์สดในทางเฟซบุ๊ก ผ่านทางเพจ "อนาคตใหม่" และเพจ "Thanathorn juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" โดยมีการพาดพิงถึง คสช.ว่ามีการดูด ส.ส.โดยใช้คดีความที่ติดตัว ส.ส.แต่ละคน มาเป็นเครื่องต่อรอง นอกจากนี้ยังมีการเชิญชวนให้คนที่ติดตามมาโพสต์ มาร่วมลงชื่อรื้อกระบวนการยุติธรรม โดยเข้าให้การสอบสวนเป็นเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง 

ทั้งนี้ นายธนาธร กล่าวว่า ตนเข้ามาให้ข้อมูลในฐานะพยานเนื่องจากแจ้งความเอาผิดกับผู้ดูแลเพจเฟซบุ๊กทั้งสองเพจ ซึ่งตนก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่ ตนคิดไว้นานแล้วว่าวันหนึ่งจะต้องมีการแจ้งความดำเนินคดีจาก คสช. โดยข้อความที่ตนเองมีการพูดในไลฟ์เกี่ยวกับการดูด ส.ส. ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ตนได้รับทราบมาจาก ส.ส.หลายคนที่ถูกทาบทาม และเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ทราบกันโดยทั่วไป ไม่ได้มีเจตนาที่จะกล่าวหาหรือใส่ความ การที่ คสช.ออกมาแจ้งความในลักษณะดังกล่าวก็เท่ากับยอมรับว่าได้กระทำจริง และมองว่าพรรคฯ ของตนเองเป็นศัตรู 

ว่าที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ถ้าตนถูกแจ้งข้อกล่าวหาในภายหลังก็ไม่กลัว เพราะเป็นเรื่องปกติของนักการเมืองที่จะต้องโดนโจมตีจากฝั่งตรงข้าม ส่วนเรื่องคดีดังกล่าวจะกระทบต่อชื่อเสียงของตนเองหรือไม่ ตนมองว่าไม่น่าจะได้รับผลกระทบต่อชื่อเสียงและเกิดผลกระทบต่อพรรคของตนเอง เนื่องจากพรรคยังไม่ได้รับการอนุมัติจัดตั้งจาก กกต. หลังจากนี้จะไลฟ์สดตามปกติ เพราะไม่ได้มีทำผิดกฎหมายชุมนุมเกิน 5 คน และจะไม่มีการปรับเนื้อหาในรายการ

...

"ส่วนที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า หลายปีที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้มีการทำ ครม.สัญจร แต่ในขณะนี้ ครม.สัญจรเต็มไปหมดไม่ว่าจะเป็นในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และ จ.อุบลราชธานี ลงไปแจกนู่นแจกนี่ให้กับประชาชนเต็มไปหมด ดังนั้นผมคิดว่า คสช.กำลังเริ่มกิจกรรมเตรียมการเลือกตั้ง ในขณะที่พรรคการเมืองอื่น หรือตนเอง แค่ลงไปลงตลาดแจกใบปลิว เปิดเวทีปราศัย พวกนี้ยังทำไม่ได้เลย เราขอเรียกร้องให้การเลือกตั้งครั้งต่อไปเป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ถ้า คสช.อยากจะปิดกั้นเสรีภาพของประชาชน ก็ให้ดูการเลือกตั้งของกัมพูชา ที่พรรครัฐบาลได้ที่นั่งครบทั้งหมด ถ้า คสช.อยากทำแบบนั้นก็ทำเลย คสช.อย่ามาใส่เสื้อคลุมที่เป็นประชาธิปไตย แต่ในเนื้อแท้เป็นเผด็จการ" นายธนาธร กล่าว

ว่าที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวอีกว่า การประชุมพรรคการเมืองเมื่อเดือน  มิ.ย.2561 ที่ผ่านมา มองว่าเป็นการซื้อเวลาของรัฐบาล เนื่องจากภายหลังการประชุมก็ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ แต่แทนที่จะนัดประชุมภายในเวลาที่เร็วที่สุด กลับกลายเป็นเดือน ก.ย. ซึ่งมองว่าเป็นการต่อเวลาออกไปได้อีก 2 เดือน ซึ่งทำให้เห็นว่า คสช.มีความพยายามที่จะซื้อเวลาออกไปเรื่อยๆ 

นายธนาธร กล่าวถึงเรื่องไพรมารีโหวต ที่อาจจะจัดให้มีไม่ทันในการเลือกตั้งรอบนี้ว่า เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ คสช.ว่าจะจัดออกมาในรูปแบบใด ทั้งนี้ตนยืนยันว่า พร้อมที่จะทำไพรมารีโหวต ซึ่งตนรู้อยู่แล้วว่าการเลือกตั้งที่จะมาถึงยังไม่มีการกำหนดวันที่แน่นอน ยอมรับว่าพรรคตนเสียเปรียบในทุกด้าน เพราะมองเปรียบเทียบเรื่องนี้กับการแข่งขันฟุตบอลที่สนาม กรรมการ และกฎกติกา ก็เป็นของ คสช. ซึ่งตนเองก็ยังไม่เห็นความจริงใจในการจัดการเลือกตั้งของ คสช.

ด้าน พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารปฏิบัติการประจำกองบัญชาการกองทัพบก ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของ คสช. เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวตนเองเข้ามาแจ้งความกับ ปอท.ตั้งแต่เมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา โดยคดีดังกล่าวนายธนาธรมีการพาดพิงถึง คสช. ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อมูลกระบวนการยุติธรรมและเป็นการกล่าวหา คสช. นอกจากนี้ยังถือว่าเป็นการโจมตีกระบวนการยุติธรรมด้วย โดยคดีดังกล่าวจะให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับนายธนาธรและพวกต่อไป

ส่วน พ.ต.ท.อธิลักษณ์ หวังสิริวรกุล รอง ผกก.3 บก.ปอท. กล่าวว่า เบื้องต้นได้ทำการสอบสวนนายธนาธรและพวก ในฐานะพยาน แต่นายธนาธรและพวกไม่ประสงค์ให้การใดๆ ทั้งนี้การแจ้งความของ คสช.ได้แจ้งความให้เอาผิดผู้ดูแลเพจทั้งสองเพจ ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ในมาตรา 14(2) นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกยุยงและเป็นภัยต่อความมั่นคง หลังจากนี้หากพบว่านายธนาธรมีพฤติการณ์เข้าข่ายความผิดในข้อหาอื่นใดก็อาจมีการแจ้งข้อกล่าวหาในภายหลังได้.