5 บริษัทยักษ์ต่างชาติติดต่อทำหนัง 13 หมูป่า ชงครม.ต้ังคณะกรรมการเฉพาะกิจ ดูแลผลประโยชน์เด็ก วิษณุ สั่งกระทรวงพัฒนาฯ เตือนสื่อนอก ห้ามล่วงล้ำเด็ก ขู่เอาผิดหากละเมิดก.ม.คุ้มครองเด็ก...

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีต่างประเทศสนใจถ่ายภาพยนตร์เกี่ยวกับการช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมี ว่า การประชุมคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้พิจารณากรณีต่างประเทศจะเข้ามาถ่ายหนังเกี่ยวกับการช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมีในไทย โดยจะพิจารณาอนุญาตจากบทภาพยนตร์ ผลกระทบต่อชื่อเสียงหรือทรัพยากรของประเทศ และในหลายด้าน โดยรับรายงานว่ามีบริษัทยักษ์ใหญ่จากต่างประเทศอย่างน้อย 5 บริษัท สนใจมาถ่ายทำหนังในประเทศไทย แต่ยังไม่เห็นคำขออย่างเป็นทางการ 

“ต้องเข้าใจว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดไม่มีลิขสิทธิ์ แต่หากจะมาถ่ายเป็นหนังจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ ซึ่งในวันที่ 24 ก.ค.นี้ จะเสนอครม.ต้ังคณะกรรมการเฉพาะกิจเล็ก 1 ชุด ดูแลและคุ้มครองเด็ก หน่วยซีล และเจ้าหน้าที่ที่อาจถูกรบกวนในเวลาถูกสัมภาษณ์หรือถูกจับเซ็นสัญญา เรากลัวเรื่องนี้ เพราะเมื่อเซ็นสัญญาแล้ว คนๆนั้นอาจไม่สามารถทำอะไรอย่างอื่นได้ จึงต้องอาศัยผู้รู้กฎหมายเข้าไปช่วย อย่างไรก็ตามการเซ็นสัญญารับเงินถือเป็นสิทธิของเด็ก รัฐบาลแค่เข้าไปให้คำแนะนำ คล้ายเป็นผู้จัดการ แต่ไม่หวังเอาเปอร์เซ็นต์หรือผลประโยชน์ใดๆ “

นายวิษณุ กล่าวว่า ขณะนี้มีต่างชาติติดต่อขอทำภาพยนตร์ซีรีย์ 5 ตอนใหญ่ๆแล้ว เพื่อฉายไปทั่วโลก จึงต้องพิจารณาอย่างละเอียด เช่น จะนำเด็ก ซีล หมอภาคย์ มาปรากฏตัวด้วยหรือไม่ หากใครที่ดูแลตัวเองไม่ได้ เช่น เด็กและผู้ปกครอง คงต้องมีที่ปรึกษาเข้าไปแนะนำ เราห่วงหลายเรื่อง ทั้งความเป็นส่วนตัว ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ ความมั่นคง ลิขสิทธิ์การจับเด็กเซ็นสัญญา ส่วนที่มีสื่อต่างประเทศไปสัมภาษณ์ทีมหมูป่าฯจนถูกวิพากษ์วิจารณ์นั้น เรื่องนี้มีกฎหมายคุ้มครองสิทธิเด็กและกฎหมายคุ้มครองข่าวสารอยู่แล้ว แต่อาจเป็นความสมัครใจของสองฝ่าย

...

อย่างไรก็ตามรัฐบาลมอบหมายให้เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ไปดูแลตักเตือนไม่ให้ล่วงล้ำเด็ก หรือผู้เกี่ยวข้องมากนักในเวลานี้ เพราะอยู่ในช่วงการรักษาสภาพจิตใจ เมื่อถึงเวลาหนึ่งอาจทำได้ รู้สึกเป็นห่วงหลังสื่อต่างชาติไปสัมภาษณ์สมาชิกทีมหมูป่าฯ กลัวจะทำให้สื่ออื่นๆทำตาม ซึ่งกระทรวงพัฒนาสังคมฯและนายอำเภอต้องเข้าไปดูแล และได้โทรศัพท์ถึงผู้ว่าเชียงรายกำชับให้ช่วยดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ แม้สื่อไทยจะอยู่ในระเบียบ แต่สื่อต่างชาติกลับไม่ทราบว่ามีข้อห้ามหรือเตือนอะไรบ้าง

“อาจไม่รู้พิษสงของกฎหมายคุ้มครองเด็ก เดี๋ยวจะเกิดปัญหา แม้จะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม แต่ถ้าผิด ก็สามารถดำเนินคดีกับต่างชาติได้” นายวิษณุ กล่าว