เดินหน้าไทยแลนด์ 4.0 ควบรวม ก.วิทย์-สกอ.-หน่วยวิจัย ตั้งกระทรวงใหม่

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เดินหน้าไทยแลนด์ 4.0 ควบรวม ก.วิทย์-สกอ.-หน่วยวิจัย ตั้งกระทรวงใหม่

Date Time: 19 พ.ค. 2561 16:58 น.

Video

บัญชีม้า เกลื่อนเมือง คนไทยอยู่อย่างไร ใครต้องรับผิดชอบ ? | Money Issue

Latest


“สุวิทย์” แจงตั้งกระทรวงใหม่ ควบรวมกระทรวงวิทย์ กับสกอ.และหน่วยงานวิจัย ไว้ด้วยกัน ยันไม่มีการยุบกระทรวงวิทย์ หรือหน่วยงานใดทั้งสิ้น ย้ำจัดองคาพยพใหม่ ตอบโจทย์ ไทยแลนด์ 4.0

เมื่อวันที่ 19 พ.ค. นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(วท.) แถลงในงานสตาร์ทอัพไทยแลนด์ ประจำปี 2561 เรื่อง “กระทรวงวิจัยและอุดมศึกษา” ว่า ขณะนี้ มีความสับสนกรณีการยุบกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ขอชี้แจงว่า จะไม่มีการยุบกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ แต่จะมีการควบรวมกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กับสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา(สกอ.)และหน่วยงานให้ทุนวิจัยของประเทศทั้งหมด อาทิ สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ(วช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) เป็นต้น มาเป็นกระทรวงใหม่ เบื้องต้นชื่อกระทรวงวิจัยและอุดมศึกษา หรืออาจจะเป็นกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและอุดมศึกษา ก็ได้ โดยการควบรวมดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายปฏิรูปประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และปฏิรูปประเทศไทยสู่ 4.0

สำหรับเหตุผลในการควบรวมมี 4 เหตุผล คือ 1.เพื่อเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 กระทรวงที่ตั้งขึ้นมาใหม่จะต้องตอบโจทย์อาชีพคนไทยในอนาคตได้ 2.เตรียมผู้ประกอบการสู่ศตวรรษที่ 21 ไม่ว่าจะเป็น Startup และ SMEs 3.เตรียมเกษตรกรสู่สมาร์ทฟาร์มเมอร์ และ 4.ประเทศไทยกำลังเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve) ซึ่งต้องพัฒนาทั้งกำลังคนและเทคโนโลยี

ขณะเดียวกันที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการ ต้องการแยก สกอ.ออกจากกระทรวง เพราะต้องการปรับสถานะของมหาวิทยาลัยใหม่ให้มีบทบาทชัดเจนขึ้น ส่วนกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯนั้น บทบาทในการขับเคลื่อน Thailand 4.0 ยังไม่ชัดเจน นอกจากนี้ หน่วยงานวิจัยของประเทศอยู่กระจัดกระจายและซ้ำซ้อน ดังนั้น รัฐบาลต้องการจัดองคาพยพใหม่ เพื่อตอบโจทย์ Thailand 4.0

ส่วนโครงสร้างกระทรวงวิจัยและอุดมศึกษา จะมี 4 กลุ่มงาน โดยกลุ่มแรก กลุ่มงานนโยบายและวางแผน งบประมาณ ทุนวิจัย (ทั้งทุนวิจัยทั้งด้านวิทยาศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์) และประสานความร่วมมือกับต่างประเทศ กลุ่มที่สอง กลุ่มสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย จะใช้รูปแบบคล้ายกับของสาธารณรัฐประชาชนจีน (Chinese Academy of Science) ในกลุ่มนี้ จะมีเรื่องงานวิจัย ดาวเทียม ดาราศาสตร์ นิวเคลียร์ ซินโครตรอน จะมีหน่วยงานอย่างสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือจิสด้า กลุ่มที่สาม กลุ่มมหาวิทยาลัยที่เน้นการวิจัย ทั้งวิจัยพื้นฐาน วิจัยสู่อนาคต และวิจัยประยุกต์ ครอบคลุมทั้งด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี มนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ และกลุ่มที่สี่ กลุ่มมหาวิทยาลัยเชิงพื้นที่ ซึ่งก็คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏที่มีทั่วประเทศ เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาตามภูมิสังคมในแต่ละพื้นที่

ทั้งนี้โครงสร้างกระทรวงใหม่จะสามารถตอบโจทย์ของประเทศได้ โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งเร่งให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลนี้

ขณะที่ พ.ร.บ.อุดมศึกษา ซึ่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อตั้งกระทรวงอุดมศึกษานั้น ไม่มีผลกระทบ สามารถนำที่ทำอยู่มาปรับเปลี่ยนและต่อยอดกันได้ ซึ่งขั้นตอนจากนี้จะมีการหารือกับนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อตั้งคณะทำงานการจัดตั้งกระทรวงใหม่ ส่วนการควบรวมกันระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯกับสำนักงานคณะอุดมศึกษายืนยัน ไม่มีปัญหาตำแหน่งบริหาร เพราะกระทรวงใหม่ น่าจะมีรูปแบบใช้ระบบราชการน้อยมาก ซึ่งจะใช้ระบบการบริหารจัดการสมัยใหม่ ตั้งง่ายยุบง่าย

นอกจากนี้หน่วยงานของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ไม่น่าจะไปสังกัดกระทรวงอื่น เพราะตามโครงสร้างมีการแบ่งงานกันชัดเจน เพราะกระทรวงใหม่ที่ตั้งขึ้นมองประเทศไทยไปสู่อนาคต โดยใช้วิทยาศาสตร์สร้างชาติ เพราะในประเทศที่เจริญแล้วอย่างญี่ปุ่น ก็มีการนำกระทรวงวิทยาศาสตร์กับกระทรวงศึกษาธิการ รวมกันในยุโรป อย่างสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศสและเยอรมัน ก็มีการตั้งกระทรวงวิจัยและอุดมศึกษาขึ้นมารูปแบบเดียวกับที่ประเทศไทยกำลังดำเนินการ ยืนยันว่ากระทรวงใหม่จะตอบโจทย์อนาคตของประเทศได้ เป็นการปฏิรูประบบราชการอย่างแท้จริง.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ