พท.ยันวิจารณ์ คสช.ไม่ผิด ซัดต้องเท่าเทียมทั้งหมด อย่าเล่นฝ่ายเดียว ขู่ฟ้องกลับตั้งข้อหาแรงเกินจริง แกนนำยกทีมรับทราบข้อกล่าวหา
เมื่อวันที่ 18 พ.ค.61 นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ได้มีการแถลงเรื่อง 4 ปีที่ล้มเหลวของรัฐบาล และ คสช. ของสมาชิกพรรคเพื่อไทยและตัวแทน คสช.ได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง รวม 4 ข้อหานั้น การแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์ผลงานของรัฐบาลและ คสช. ถือเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพแสดงความคิดเห็นตามปกติที่รัฐธรรมนูญได้รับรองและคุ้มครอง เช่นเดียวกับบุคคลทั่วไปที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญในฐานะตัวแทนของประชาชนที่มีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลและ คสช. เพื่อรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ไม่มีการกระทำใดที่จะเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนประกาศหรือคำสั่งหัวหน้า คสช. และที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา 4 ปี แกนนำพรรคได้แสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์มาตลอด แต่พรรคไม่เคยจัดให้มีการประชุมหรือทำกิจกรรมทางการเมืองใดที่จะเป็นการฝ่าฝืนข้อห้าม แม้จะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำของพรรค แต่พรรคเพื่อไทยก็ยังคงทำหน้าที่ตรวจสอบและวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลและ คสช.ต่อไป เช่นเดียวกับพรรคการเมืองอื่นๆ ที่กระทำตามหน้าที่ของตนในลักษณะเดียวกัน
นายภูมิธรรม กล่าวด้วยว่า ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าทำความผิดเรื่องอะไร หรือสิ่งที่ทำไม่ได้ที่เป็นปัญหาคืออะไร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงระบุว่าให้มาประชาสัมพันธ์และคอยดูแลว่าไม่มีใครมาทำให้เกิดความวุ่นวายเกิดขึ้น ซึ่งเรายืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีความวุ่นวายเกิดขึ้น โดยหากการแสดงความคิดเห็นเหล่านี้ ถ้าเป็นการทำกิจกรรมทางการเมืองหรือมีความเห็นว่าเป็นการชุมนุมทางการเมือง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีหัวหน้าพรรคการเมือง มีพรรคการเมืองมาต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. แล้วมีการพูดปราศรัยยิ่งเข้าข่ายมากกว่า ถ้าเจ้าหน้าที่เห็นว่าตรงนี้เป็นความผิดต้องเอาผิดอย่างเสมอหน้ากันทุกฝ่าย อย่าให้มีลักษณะที่มาคอยเล่นงานแต่พรรคเพื่อไทยฝ่ายเดียว ส่วนบุคคลอื่นๆ กับไม่ดำเนินการ ทั้งนี้ไม่มั่นใจและไม่เข้าใจว่าจะใช้เรื่องนี้เป็นเหตุทางการเมืองเพื่อมาดำเนินการกับพรรคการเมืองหรือนักการเมืองที่ออกมาแสดงความเห็นได้อย่างไร
...
ด้าน นายชูศักดิ์ ศิรินิล กล่าวว่าไม่รู้สึกหนักใจ เพราะถือว่าการดำเนินการของตนและสมาชิกพรรค เป็นการทำหน้าที่ของประชาชนคนหนึ่ง พรรคการเมืองเป็นตัวแทนของประชาชน เมื่อ คสช.และรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการที่ถูกต้องหรือไม่ก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อประชาชน เมื่อทำงานไม่ดีและก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศก็ย่อมต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นเรื่องธรรมดา การแถลงเพื่อแสดงความคิดเห็นต่อสื่อมวลชนเป็นการทำโดยเจตนาสุจริต ไม่ถือว่าเป็นการมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองที่จะเป็นการขัดต่อคำสั่งหรือประกาศของ คสช. แต่อย่างใด และไม่ใช่เป็นการชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คน หรือการยุยงปลุกปั่นประชาชน อันจะเป็นความผิดตามมาตรา 116 และไม่ใช่เป็นการนำข้อความอันเป็นเท็จมากล่าวที่จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตามที่ตัวแทน คสช.กล่าวอ้าง จึงย่อมไม่มีการกระทำที่ขัดคำสั่ง คสช. หรือผิดกฎหมายอาญา ซึ่งตนเองจะรอพนักงานสอบสวนว่าจะมีการตั้งข้อหาอะไรบ้าง หากเห็นว่ามีการตั้งข้อหาที่รุนแรงเกินจริงก็คงจะต้องใช้สิทธิทางกฎหมายในการดำเนินคดีกลับเพื่อปกป้องสิทธิของตนเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 21 พ.ค.นี้ เวลา 10.30 น. แกนนำพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายชัยเกษม นิติสิริ นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายนพดล ปัทมะ นายวัฒนา เมืองสุข และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง จะเข้าพบพนักงานสอบสวนที่กองปราบปราม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา.