รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเหตุผลให้กระจ่าง ทำไมอัยการไม่สั่งฟ้อง “เปรมชัย” 5 ข้อหาในคดีล่าเสือดำ
นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยข้อความชี้แจงเหตุผลกรณีอัยการสั่งฟ้อง นายเปรมชัย กรรณสูต ในคดีเสือดำ 6 ข้อหา แต่ไม่ฟ้อง 5 ข้อหา จนมีคนจำนวนไม่เข้าใจว่าเหตุใด จึงได้ชี้แจงเหตุผลไว้ดังนี้
ข้อหาที่ 1 ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต สั่งไม่ฟ้องเพราะข้อหานี้ นายเปรมชัย ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนทั้ง 3 กระบอกตามกฎหมาย เมื่อได้รับอนุญาตก็ไม่เป็นความผิดทางกฎหมาย ตามที่ตำรวจเสนอเห็นควรสั่งไม่ฟ้องมา
ข้อหาที่ 2 ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต สั่งไม่ฟ้องเพราะ นายเปรมชัย ได้รับอนุญาตจากหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า คือ นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ให้สามารถเข้าไปได้ ข้อหานี้ตามกฎหมายแล้วกำหนดเป็นความผิด แต่ไม่ได้กำหนดโทษไว้ เพียงแต่มีโทษทางปกครองคือให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ ถ้าเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าก็คือหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า มีอำนาจทางการปกครองในการที่จะสั่งให้ออกจากสถานที่นั้น
เช่นเดียวกับข้อหาที่ 3 ร่วมกันมีเครื่องมือสำหรับการล่าสัตว์ป่า ทั้ง 2 ข้อหานี้มีลักษณะอย่างเดียวกัน คือมีบทกฎหมายความผิด แต่ไม่ได้กำหนดโทษไว้ อย่างเช่น จำคุก ปรับ กักขัง หรือยึดทรัพย์สิน ไม่มีกำหนดโทษไว้
...
ข้อหาที่ 4 ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต สั่งไม่ฟ้องเพราะข้อเท็จจริงฟังได้เพียงแต่ว่า ผู้ต้องหาที่ 4 (ธานี ทุมมาศ) เป็นคนพยายามล่าสัตว์ป่า และขณะที่ผู้ต้องหาที่ 4 พยายามยิงสัตว์นั้น นายเปรมชัย นายยง และนายนที ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ขณะนั้นอยู่กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า แต่ในความผิดล่าสัตว์ป่ามีการสั่งฟ้อง นายเปรมชัย แล้ว
และข้อหาที่ 5 ร่วมกันกระทำการทารุณสัตว์โดยไม่มีเหตุอันควร สั่งไม่ฟ้องเพราะตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 มาตรา 3 กำหนดว่าในพระราชบัญญัตินี้ “สัตว์” หมายความว่า สัตว์ที่โดยปกติเลี้ยงไว้เพื่อเป็นสัตว์บ้าน สัตว์เลี้ยงเพื่อใช้งาน สัตว์เลี้ยงเพื่อใช้เป็นพาหนะ สัตว์เลี้ยงเพื่อใช้เป็นเพื่อน สัตว์เลี้ยงเพื่อใช้เป็นอาหาร สัตว์เลี้ยงเพื่อใช้ในการแสดง หรือสัตว์เลี้ยงเพื่อใช้ในการอื่นใด ทั้งนี้ ไม่ว่าจะมีเจ้าของหรือไม่ก็ตาม และให้หมายความรวมถึงสัตว์ที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฏว่าขณะที่ นายเปรมชัย กับพวกกระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหานั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังไม่ได้มีการออกประกาศกำหนดว่าสัตว์ที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติชนิดใดบ้างเป็นสัตว์ตามความในมาตรา 3 ดังนั้น แม้เสือดำจะเป็นสัตว์ที่อยู่ในธรรมชาติ แต่เมื่อรัฐมนตรียังไม่ได้ประกาศกำหนด การกระทำของ นายเปรมชัย กับพวกจึงไม่เข้าองค์ประกอบของความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 ข้อหานี้ตำรวจเสนอความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องมา
ขณะนี้ พนักงานอัยการภาค 7 ส่งสำนวนคดีกลับไปให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พิจารณาว่ามีความเห็นชอบแล้ว ซึ่งหากเห็นชอบก็จะส่งสำนวนคดีกลับมาให้พนักงานอัยการภาค 7 ยื่นฟ้องต่อศาลโดยเร็ว แต่หากมีความเห็นแย้งก็จะต้องส่งสำนวนให้ อัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาดต่อไป เหลือเวลาฝากขังอีกราว 25 วัน.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
(ขอบคุณเฟซบุ๊ก โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง)