"นิพิฏฐ์" โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุลืมได้เลยเลือกตั้ง ก.พ. ปี 62 แจงละเอียด ตั้ง 3 ข้อสังเกตสิ่งผิดปกติ ยกทฤษฎีสมคบคิด เจือสมปรากฏการณ์อภินิหารทางกฎหมาย

เมื่อวันที่ 14 มี.ค. นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ "เกิดความสงสัยอย่างกะทันหันว่าสิ่งที่ตนเห็นชอบ ขัดกฎหมาย?" ใจความว่า สนช.มีมติเห็นชอบกับ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.(เป็นเอกฉันท์) วันนี้อาจเปลี่ยนใจจะส่งไปตีความ ที่ศาลรัฐธรรมนูญว่า สิ่งที่ตัวเองเห็นชอบไปนั้น ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ (ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 81, 148) เพราะงั้นการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ลืมไปได้เลย

นายนิพิฏฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ฟังที่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.ออกมาเตือนบรรดา สนช.ตามที่เป็นข่าว ก็ปรากฏว่ามี สนช.บางคนออกมารับลูกว่า อาจต้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า สิ่งที่ สนช.มีมติโหวตผ่านร่างกฎหมายทั้งสองฉบับ ว่าผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่อย่างไร ตนเคยบอกแล้วว่า 1. หลัง สนช.โหวตผ่านกฎหมายสองฉบับนี้ด้วยเสียงเอกฉันท์ และถ้ามีการส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอีก แสดงว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เพราะสิ่งใดถ้าไม่มั่นใจเขาคงไม่ทำ โดยเฉพาะองค์กรหลักอย่างสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือศาลรัฐธรรมนูญ เพราะถ้าไม่มั่นใจก็ไม่ควรทำ โดยเฉพาะในสิ่งที่ทำไปแล้วซ้ำยังมีมติเป็นเอกฉันท์คือ ไม่มีสมาชิก สนช.คนใดคัดค้าน แต่เพียงชั่วข้ามคืน หลัง นายมีชัย ออกมาพูด แค่เสียงเดียว สนช.กลับสับสนในสิ่งที่ตัวเองได้ทำไปแล้วว่า ผิดกฎหมายหรือไม่จะต้องส่งให้ศาลตีความ จึงเป็นการสนับสนุนข้อสังเกตที่มีคนตั้งว่า มีทฤษฎีสมคบคิดเกิดขึ้นในการออกกฎหมาย และการจัดการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น

...

นายนิพิฏฐ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ปัญหาจะเกิดขึ้นทันทีเมื่อมีการส่งไปตีความ เพราะไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่า การเลือกตั้งทั่วไปจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และถ้ามีใครแสดงท่าทีขึงขังย้ำว่า จะมีเลือกตั้งเกิดขึ้นในเดือน ก.พ. 62 ก็เท่ากับว่าบุคคลนั้น กำลังจะโกหกประชาชนอีกต่อไป เพราะการส่งเรื่องให้ศาลตีความไม่มีการกำหนดระยะเวลา ในการพิจารณาของศาลได้ คือ อาจจะใช้เวลาหกเดือนหรือหนึ่งปีหรือมากกว่านั้นก็ได้ 2. ทฤษฎีสมคบคิดนี้ ถ้าศาลตีความว่าร่างกฎหมายที่ผ่าน สนช.ผิดรัฐธรรมนูญ การเลือกตั้งก็จะต้องเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด อาจจะเป็น 2-3 ปี ก็ได้ เพราะต้องไปเริ่มต้นกระบวนการยกร่างกฎหมายใหม่ทั้งหมด ซึ่งเท่าที่ตนติดตามดูห่างๆ คิดว่ามีแนวโน้มว่าจะผิดรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะเจือสมกับที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่ามีทฤษฎีสมคบคิดกันจริง 3. คนระดับ นายมีชัย ที่ยกร่างรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกต่างๆ มาแล้ว ควรจะรู้แต่ต้นแล้วว่าสิ่งที่เสนอไปขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ และไม่ควรปล่อยให้ผ่านมาอย่างนี้ หากมีปัญหาก็ควรต้องแก้ไขให้เรียบร้อย ก่อนที่จะปล่อยให้มีการโหวตลงมติ จึงถือได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ อภินิหารทางกฎหมายของของกฎหมาย ซึ่งคนที่มีอภิญญาสูงส่งระดับนายมีชัยเท่านั้น ที่สามารถทำได้