รอทบทวนกรอบใหม่ทั้ง ศธจ.-เขตพื้นที่ฯ ผู้ผ่านไฟเขียวปฏิบัติงาน 1 พ.ย.

จากกรณีที่มีปัญหาในการเกลี่ยอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในการรองรับการจัดตั้งสำนักงานศึกษาธิการภาค (ศธภ.) และ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) เนื่องจากผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาในฐานะผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดไม่เซ็นอนุมัติให้นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค (คปภ.) ที่มี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมช.ศึกษาธิการเป็นประธานเมื่อเร็วๆนี้ ได้มีการพิจารณากลั่นกรองการเกลี่ยอัตรากำลังรองรับการจัดตั้ง ศธภ.และ ศธจ. ครั้งที่ 2 ที่มีผู้สมัครขอรับการเกลี่ยอัตรากำลังประมาณ 800 อัตรา แต่เป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดจำนวนทั้งสิ้น 605 ราย ซึ่งสามารถจัดลงตำแหน่งได้ตามโครงสร้างกรอบอัตรากำลังที่ได้รับอนุมัติ โดยไม่มีเงื่อนไข จำนวน 496 ราย จัดลงตำแหน่งได้แต่มีเงื่อนไข เนื่องจากผู้ดำรงตำแหน่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งในระดับที่สูงกว่าตำแหน่งตามโครงสร้าง 44 ราย และต้องผ่านการคัดเลือกเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กำหนด 66 ราย และอีก 3 รายมีเปลี่ยนกลุ่มงาน ขณะที่มีผู้สมัครขอรับการเกลี่ยอัตรากำลังที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ได้รับคะแนนรวมผ่านเกณฑ์การประเมิน แต่ไม่มีคะแนนจากผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด ทำให้องค์ประกอบไม่ผ่านการพิจารณา 16 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปฯ ได้มีการอภิปรายอย่างกว้างขวางและมีข้อเสนอให้ชะลอการเกลี่ยอัตรากำลังดังกล่าว เพื่อที่จะไปพิจารณากำหนดกรอบอัตรากำลังใหม่ แต่มีการคัดค้านในที่ประชุมว่า การเกลี่ยอัตรากำลังดังกล่าวผ่านการพิจารณามาตามลำดับแล้ว หากมีการชะลออาจเกิดการฟ้องร้องได้ ที่ประชุมจึงมีมติอนุมัติเกลี่ยอัตรากำลังในรอบที่ 2 ที่เป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน จำนวนทั้งสิ้น 608 ราย โดยให้ตัดโอนตำแหน่งและอัตราเงินเดือนและเงินที่เกี่ยวข้องจากต้นสังกัดเดิม มาไว้ที่สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยให้ผู้ได้รับการเกลี่ยอัตรากำลังไปปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้เป็นต้นไป และให้ชะลอการเกลี่ยอัตรากำลังครั้งที่ 3 จนกว่าจะมีการทบทวนกรอบอัตรากำลังของทั้ง ศธจ.และเขตพื้นที่ฯ ให้มีเพียงพอในการปฏิบัติงาน.

...